สวัสดีค่ะทุกคน! มัลดีฟส์ สวรรค์บนดินที่ใครๆ ก็ฝันถึง ไม่ได้มีแค่หาดทรายขาว น้ำทะเลใส และรีสอร์ทหรูเท่านั้นนะคะ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “มารยาท” และ “วัฒนธรรม” ที่เราควรเคารพ เพื่อให้การเดินทางของเราราบรื่นและเป็นการให้เกียรติเจ้าบ้านด้วย เพราะถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก แต่ก็ยังมีขนบธรรมเนียมที่แตกต่างจากบ้านเราอยู่พอสมควรเลยค่ะ อย่างเช่น การแต่งกายที่มิดชิดในบางพื้นที่ หรือการละเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกรีสอร์ท เป็นต้นการไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง สิ่งที่ฉันยึดถือเสมอคือการศึกษาวัฒนธรรมของที่นั่นก่อนค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่ทำอะไรผิดพลาดแล้ว ยังทำให้เราเข้าใจและซึมซับเสน่ห์ของสถานที่นั้นๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย มัลดีฟส์ก็เช่นกันค่ะ การรู้มารยาทและข้อควรปฏิบัติ จะทำให้ทริปของเรามีความหมายและน่าจดจำมากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองเลยล่ะค่ะด้วยความที่ฉันเคยไปมัลดีฟส์มาแล้ว รู้สึกเลยว่าการเตรียมตัวเรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะบางทีเราก็อาจจะเผลอทำอะไรที่ไม่เหมาะสมไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นวันนี้ เราจะมาเจาะลึกเรื่องมารยาทในการไปเที่ยวมัลดีฟส์กันแบบละเอียดเลยค่ะ เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวไปเที่ยวได้อย่างมั่นใจ และมีความสุขกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เอาล่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างที่เราควรรู้และควรระวังในการไปเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้ มารยาทต่างๆ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะคะ แค่ใส่ใจและให้ความเคารพวัฒนธรรมของเขาก็พอแล้วค่ะเอาเป็นว่าเพื่อการเที่ยวที่สนุกและราบรื่น เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างกันไปเลยดีกว่าค่ะ!
ใส่ใจเรื่องการแต่งกาย เที่ยวมัลดีฟส์แบบไม่โป๊
1. แต่งกายสุภาพในที่สาธารณะ
มัลดีฟส์เป็นประเทศมุสลิม การแต่งกายที่มิดชิดจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่นอกรีสอร์ท เช่น ในเมืองหลวงมาเล่ หรือตามเกาะท้องถิ่นต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อตัวมากเกินไป อย่างเช่น เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้นจู๋ หรือกระโปรงสั้นมากๆ แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่คลุมไหล่และเข่า เพื่อเป็นการเคารพวัฒนธรรมของเขาค่ะ
2. บิกินี่และชุดว่ายน้ำ ใส่ได้เฉพาะในรีสอร์ท
แน่นอนว่ามัลดีฟส์ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสวย น้ำใส ใครๆ ก็อยากใส่บิกินี่เล่นน้ำ แต่การใส่บิกินี่หรือชุดว่ายน้ำเดินเล่นตามถนนหนทาง หรือในที่สาธารณะอื่นๆ นอกรีสอร์ท ถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งค่ะ ควรใส่ชุดว่ายน้ำเฉพาะในพื้นที่ที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เท่านั้น หรือถ้าจะไปดำน้ำดูปะการัง ก็ควรมีเสื้อคลุมหรือผ้าพันคอคลุมทับก่อนออกจากรีสอร์ทนะคะ
3. ผ้าคลุมไหล่ ไอเท็มสำคัญที่ควรมีติดกระเป๋า
ผ้าคลุมไหล่เป็นไอเท็มที่ควรมีติดกระเป๋ามากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยกันแดดกันลมได้แล้ว ยังสามารถนำมาคลุมไหล่หรือคลุมผมเวลาเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น มัสยิด ได้อีกด้วย หรือถ้าวันไหนอยากจะแต่งตัวสบายๆ แต่ก็ไม่อยากให้ดูโป๊เกินไป ก็สามารถนำผ้าคลุมไหล่มาพันเป็นเสื้อเก๋ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มด่ำบรรยากาศแบบใสๆ
1. มัลดีฟส์เป็นประเทศที่เคร่งครัดเรื่องแอลกอฮอล์
ตามกฎหมายของมัลดีฟส์ การนำเข้าและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายค่ะ ดังนั้นเราจะไม่สามารถหาซื้อเบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือตามเกาะท้องถิ่นต่างๆ ได้เลยค่ะ
2. ดื่มได้เฉพาะในรีสอร์ทที่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ทางการมัลดีฟส์อนุญาตให้รีสอร์ทบางแห่งที่ได้รับใบอนุญาต สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ค่ะ ดังนั้นถ้าใครอยากจะจิบเบียร์เย็นๆ หรือค็อกเทลเก๋ๆ ก็สามารถทำได้ในรีสอร์ทที่พักเท่านั้นนะคะ แต่ก็ควรดื่มอย่างพอประมาณ และไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นค่ะ
3. เที่ยวแบบไม่เมา ก็สนุกได้เหมือนกัน
ถึงแม้จะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ดื่มด่ำมากนัก แต่การเที่ยวมัลดีฟส์ก็ยังสนุกได้เหมือนกันค่ะ เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค เล่นวินด์เซิร์ฟ หรือแค่การนอนอาบแดดริมหาดทราย ก็เป็นการพักผ่อนที่แสนวิเศษแล้วค่ะ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดื่มน้ำผลไม้ปั่น หรือน้ำมะพร้าวสดๆ แทน ก็สดชื่นไม่แพ้กันนะคะ
แสดงความเคารพต่อศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
1. หลีกเลี่ยงการแสดงความรักในที่สาธารณะ
การแสดงความรักในที่สาธารณะ เช่น การจูบ การกอด หรือการแสดงความรักอื่นๆ ที่โจ่งแจ้งเกินไป ถือเป็นสิ่งที่ไม่สุภาพในมัลดีฟส์ค่ะ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำเหล่านี้ เพื่อเป็นการเคารพวัฒนธรรมของเขาค่ะ
2. งดส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน การรักษามารยาทพื้นฐานอย่างการไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ก็เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอยู่เสมอค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม การส่งเสียงดังอาจเป็นการรบกวนเวลาละหมาดของพวกเขาได้ค่ะ
3. ให้เกียรติชาวมัลดีฟส์
ชาวมัลดีฟส์ส่วนใหญ่เป็นคนใจดี มีอัธยาศัยดี และพร้อมให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่เสมอค่ะ ดังนั้นเราก็ควรให้เกียรติพวกเขาด้วยการพูดจาสุภาพ ยิ้มแย้ม และให้ความเคารพในวัฒนธรรมของพวกเขาค่ะ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพ
1. ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพบุคคล
การถ่ายภาพบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่งค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมมุสลิม ดังนั้นก่อนที่จะถ่ายภาพใคร ควรขออนุญาตเขาก่อนเสมอค่ะ ถ้าเขาไม่อนุญาต ก็ควรเคารพการตัดสินใจของเขา
2. หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพสถานที่ราชการ
สถานที่ราชการบางแห่งในมัลดีฟส์ อาจไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพค่ะ ดังนั้นควรสังเกตป้ายเตือน หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนทำการถ่ายภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
3. เคารพความเป็นส่วนตัว
ไม่ควรแอบถ่ายภาพผู้อื่นในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อน หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัวอื่นๆ เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพวกเขาค่ะ
ทิปเล็กๆ น้อยๆ เพื่อการเที่ยวที่ราบรื่น
1. เตรียมเงินสดติดตัว
ถึงแม้ว่ารีสอร์ทส่วนใหญ่ในมัลดีฟส์จะรับบัตรเครดิต แต่การมีเงินสดติดตัวไว้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปเที่ยวตามเกาะท้องถิ่นต่างๆ เพราะร้านค้าบางแห่งอาจไม่รับบัตรเครดิต
2. เรียนรู้คำทักทายง่ายๆ ในภาษาท้องถิ่น
การเรียนรู้คำทักทายง่ายๆ ในภาษาท้องถิ่น เช่น “อัสสลามุอะลัยกุม” (สวัสดี) หรือ “ชุกรียา” (ขอบคุณ) จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับชาวมัลดีฟส์ และทำให้การเดินทางของเราเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ
3. พกยาสามัญประจำบ้าน
ควรพกยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ และยาใส่แผลติดตัวไปด้วย เพราะอาจไม่สะดวกในการหาซื้อยาเหล่านี้ตามเกาะต่างๆ ค่ะ
ข้อควรปฏิบัติ | ข้อควรละเว้น |
---|---|
แต่งกายสุภาพในที่สาธารณะ | ใส่บิกินี่นอกรีสอร์ท |
ดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะในรีสอร์ทที่ได้รับอนุญาต | นำเข้าหรือซื้อขายแอลกอฮอล์ |
แสดงความเคารพต่อศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น | แสดงความรักในที่สาธารณะ |
ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพบุคคล | ถ่ายภาพสถานที่ราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต |
เรียนรู้คำทักทายง่ายๆ ในภาษาท้องถิ่น | ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น |
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวมัลดีฟส์นะคะ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้เราเที่ยวได้อย่างสนุกและมีความสุขมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมเคารพวัฒนธรรมและให้เกียรติเจ้าบ้าน เพื่อให้การเดินทางของเราเป็นที่น่าประทับใจทั้งสำหรับเราและสำหรับพวกเขาค่ะ แล้วเจอกันที่มัลดีฟส์นะคะ!
การไปเที่ยวมัลดีฟส์ครั้งนี้ หวังว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับบ้านไปนะคะ มัลดีฟส์ไม่ได้มีแค่ทะเลสวยๆ เท่านั้น แต่ยังมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และผู้คนที่เป็นมิตร หากเราเปิดใจเรียนรู้และเคารพซึ่งกันและกัน การเดินทางครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีไปตลอดกาลค่ะ แล้วพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้านะคะ!
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
1.
สกุลเงินที่ใช้ในมัลดีฟส์คือ รูฟียาห์ (MVR) แต่โดยทั่วไปแล้ว รีสอร์ทและร้านค้าส่วนใหญ่รับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ค่ะ
2.
เวลาในมัลดีฟส์เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมงค่ะ
3.
ปลั๊กไฟที่ใช้ในมัลดีฟส์เป็นแบบ Type D และ Type G เหมือนกับที่ใช้ในสหราชอาณาจักร ควรเตรียม Universal Adapter ไปด้วยค่ะ
4.
ควรเตรียมครีมกันแดด แว่นกันแดด และหมวกไปด้วย เพราะแดดที่มัลดีฟส์แรงมากค่ะ
5.
ถ้ามีแพลนจะไปดำน้ำ ควรเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำส่วนตัวไปด้วย แต่ถ้าไม่มีก็สามารถเช่าได้จากรีสอร์ทค่ะ
ข้อสรุปที่สำคัญ
*
แต่งกายสุภาพเมื่ออยู่นอกรีสอร์ท
*
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะในรีสอร์ทที่ได้รับอนุญาต
*
เคารพศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
*
ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพบุคคล
*
เตรียมเงินสดติดตัวไปด้วย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 📖
ถาม: มัลดีฟส์ไปช่วงไหนดีที่สุด อากาศเป็นยังไงบ้าง?
ตอบ: ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวมัลดีฟส์คือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนค่ะ เพราะเป็นช่วงฤดูแล้ง อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าสวย น้ำทะเลใสมาก เหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 27-30 องศาเซลเซียส แต่ถ้าไปช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคมจะเป็นฤดูฝน อาจเจอฝนบ้าง แต่ข้อดีคือราคาที่พักจะถูกกว่าค่ะ
ถาม: ต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่สำหรับการไปเที่ยวมัลดีฟส์?
ตอบ: งบประมาณในการเที่ยวมัลดีฟส์ขึ้นอยู่กับสไตล์การเที่ยวของแต่ละคนเลยค่ะ ถ้าพักรีสอร์ทหรู กินหรู อยู่สบาย ก็อาจจะต้องเตรียมเงินหลักแสนบาทขึ้นไป แต่ถ้าเน้นประหยัด พักเกสต์เฮาส์ท้องถิ่น กินอาหารตามร้านทั่วไป ก็อาจจะใช้เงินประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อคนต่อทริปค่ะ ที่สำคัญคือต้องเผื่อเงินสำหรับค่ากิจกรรมต่างๆ ด้วยนะคะ เช่น ดำน้ำ ดูปลาโลมา หรือไปเที่ยวเกาะต่างๆ
ถาม: การเดินทางในมัลดีฟส์สะดวกไหม แล้วมีวิธีเดินทางแบบไหนบ้าง?
ตอบ: การเดินทางในมัลดีฟส์ค่อนข้างสะดวกค่ะ เพราะมีบริการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งเรือสปีดโบ๊ท เรือเฟอร์รี่ และเครื่องบินทะเล (Seaplane) ถ้าพักรีสอร์ทที่อยู่ใกล้สนามบิน ก็มักจะมีบริการรับส่งด้วยสปีดโบ๊ท หรือเครื่องบินทะเลให้ แต่ถ้าพักเกสต์เฮาส์บนเกาะท้องถิ่น ก็อาจจะต้องนั่งเรือเฟอร์รี่ ซึ่งจะมีตารางเวลาที่แน่นอน ต้องเช็คให้ดีก่อนเดินทางค่ะ เครื่องบินทะเลมักใช้เดินทางไปยังรีสอร์ทที่อยู่ไกลออกไป และมีราคาค่อนข้างสูงค่ะ
📚 อ้างอิง
Wikipedia Encyclopedia
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과
구글 검색 결과